PORT ที่สำคัญ
1. วีจีเอ พอร์ต (VGA Port)
พอร์ตนี้สำหรับต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับมอนิเตอร์ เป็นพอร์ตขนาด
15 พิน
ในคอมพิวเตอร์บางเครื่องอาจจะติดตั้งการ์ดสำหรับถอดรหัสสัญญาณ MPEG เพิ่มเข้ามาซึ่งลักษณะของพอร์ตนั้นจะคล้าย ๆ กันแต่การ์ด MPEG จะมีพอร์ตอยู่สองชุดด้วยกันสำหรับเชื่อมไปยังการ์ดแสดงผลหนึ่งพอร์ต
และต่อเข้ากับมอนิเตอร์อีกหนึ่งพอร์ต ดังนั้นเครื่องใครที่มีพอร์ตแบบนี้
ก็ควรจะบันทึกไว้ด้วย เพราะไม่งั้นอาจจะใส่สลับกัน
จะทำให้โปรแกรมบางตัวทำงานไม่ได้
2. พอร์ตอนุกรม (Serial Port)
เป็นพอร์ตสำหรับต่อกับอุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุต
โดยส่วนใหญ่เราจะใช้สำหรับต่อกับเมาส์ในกรณีที่คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นไม่มีพอร์ต PS/2
หรือเป็นเคสแบบ AT นอกจากนั้นเรายังใช้สำหรับเป็นช่องทางการติดต่อโมเด็มด้วย
ในคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องจะมีพอร์ตอนุกรมให้อยู่สองพอร์ต เรียกว่าพอร์ตคอม 1
และพอร์ตคอม 2 นอกจากนั้นอาจจะมีฮาร์ดแวร์บางตัว
เช่น จอยสติ๊กรุ่นใหม่ ๆ มาใช้พอร์ตอนุกรมนี้เช่นกัน
• พอร์ตอนุกรมจะมีหัวเข็ม
9 เข็ม หรือ 25 เข็ม
(พอร์ตนี้จะเป็นตัวผู้ เพราะมีเข็มยื่นออกมา)
• พอร์ตนี้จะต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ
เช่น เม้าส์ โมเด็ม สแกนเนอร์ เป็นต้น
• สามารถต่อความยาวได้ถึง 6 เมตร และราคาสายก็ไม่แพงนัก
3. พอร์ตขนาน (Pararell Port)
หน้าที่ของพอร์ตตัวนี้ก็คือใช้สำหรับติดต่อกับเครื่องพิมพ์เป็นหลัก
ปัจจุบันมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานร่วมกับสแกนเนอร์
หรือว่าไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวได้ด้วย พอร์ตแบบนี้มีขนาดยาวกว่าพอร์ตอนุกรมทั่ว ๆ ไป
โดยมีจำนวนพินเท่ากับ 25 พิน
สังเกตได้ง่าย
• พอร์ตขนานจะมีรู 25 รู (พอร์ตนี้จะเป็นตัวเมีย หมายถึงมีรูที่ตัวพอร์ต)
• พอร์ตนี้จะต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ
เช่น เครื่องพิมพ์ เทปไดร์ฟ สแกนเนอร์ เป็นต้น
• สามารถต่อความยาวไม่มากนัก
แถมมีราคาแพงกว่าสายของพอร์ตอนุกรมด้วย
• การส่งสัญญาณจะส่งได้เร็วกว่าพอร์ตอนุกรม
4. พอร์ตยูเอสบี (USB Port)
พอร์ตยูเอสบี เป็นพอร์ตแบบใหม่ล่าสุด
ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับพีซีคอมพิวเตอร์ ให้สามารถรับส่งข้อมูลให้รวดเร็วขึ้น
สามารถต่ออุปกรณ์ได้มากถึง 127 ชิ้น เพราะมีแบนด์วิดธ์ในการรับส่งข้อมูลสูงกว่า พอร์ตแบบนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับระบบปลั๊กแอนด์เพลย์บนวินโดวส์
98 ปัจจุบัน
มีฮาร์ดแวร์จำนวนมากที่สนับสนุนการเชื่อมต่อแบบนี้ เช่น กล้องดิจิตอล เมาส์
คีย์บอร์ด จอยสติ๊ก สแกนเนอร์ ซีดีอาร์ดับบลิว เป็นต้น สำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่
ๆ จะมีพอร์ตแบบนี้จะมีพอร์ตแบบนี้อยู่ในเครื่องเรียบร้อยแล้ว
• คอมพิวเตอร์ปกติจะมี 2 USB
Port ถ้าเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่ไม่มี USB สามารถหาซื้อการ์ด
USB มาติดตั้งได้
• เป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ
สูงประมา 3-5 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 1-2 เซ็นติเมตร
• พอร์ตชนิดใหม่รับส่งความเร็วได้สูงกว่า
port ทั่ว ๆ ไป
• สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อเนื่องได้
127 ตัว
• เป็นมาตราฐานใหม่ที่มีมากับเครื่องคอมพิวเตอร์
• การติดตั้ง
เพียงต่ออุปกรณ์เข้ากับ USB port ก็สามารถใช้งานอุปกรณ์นั้นๆ
ได้ โดยไม่จำเป็นต้อง boot เครื่องใหม่
5. Finger Print
Finger Print หรือ ที่สแกนลายนิ้วมือ
ที่สามารถใช้ลายนิ้วมือของตัวเองตั้งเป็นรหัสเพื่อเข้าเปิดเครื่อง
หรือเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เหมาะสมกับนักธุรกิจ ยัน
นักศึกษาเลยด้วย
6. PS/2 Mouse,
PS/2 Keyboard Port
เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับต่อสายเมาส์กับสายคีย์บอร์ดเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์
โดยเรียกว่าพีเอสทูเมาส์หรือพีเอสทูคีย์บอร์ด ซึ่งพอร์ตจะมีรูกลมหกรู
แล้วก็รูสี่เหลี่ยมหนึ่งรู
ซึ่งปลายสายคีย์บอร์ดหรือเมาส์ก็จะมีเข็มที่ตรงกับตำแหน่งของรูที่พอร์ตด้วย
การเสียบสายเมาส์และคีย์บอร์ดเข้าไปต้องระวังให้เข็มตรงกับรู
สำหรับพอร์ตเมาส์และคีย์บอร์ดนั้นจะใช้ Color Key แสดงเอาไว้สีเขียวต่อสายเมาส์
ส่วนสีน้ำเงินต่อสายคีย์บอร์ด
นอกจากนี้ยังมีจุดสังเกตอีกประการหนึ่งคือเมื่อประกอบเมนบอร์ดเข้ากับเคสที่เคสจะมีลักษณ์รูปเมาส์กับรูปคีย์บอร์ดติดอยู่
เพื่อให้ต่อสายเมาส์และคีย์บอร์ดได้ถูกต้อง
7. Ethernet
Port
คือสายที่ต่อเชื่อมเราเตอร์กับสวิสต์ หรือ เราเตอร์กับพีซี แบ่งได้เป็นสองสล็อต คือ Fa0/0 และ Fa0/1 สายที่ใช้เชื่อมต่อจะใช้ UTP หรือสาย Lan
8. Firewire Port
Firewire หรือที่นิยมเรียกกันว่า IEEE 1394 เป็น Port มีลักษณะดังในภาพ คล้ายรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
หรืออีกรูปแบบนึงซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่า ใช้โอนถ่ายข้อมูลเป็นหลักคล้ายๆกับ USB
โดยมีความเร็วอยู่ที่ 400 MB/s อาจจะดูด้อยกว่า
USB 2.0 เล็กน้อยแต่ก็แลกมาด้วยความนิ่งของสัญญาณที่ไม่แกว่งเหมือน
USB นิยมใช้ในกล้องวีดีโอความละเอียดสูง แต่อีกไม่นานเมื่อ USB
เข่าสู่เวอร์ชั่น 3 เมื่อไรพอร์ตนี้คงจะเริ่มหายจากไปเหลือเพียงใช้งานในบางกลุ่มเท่านั้น
ส่วนใหญ่ Port Firewire ส่วนใหญ่จะใช้กับกล้อง VDO
CamCoders เป็นหลัก ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว
9. LAN Port (พอร์ต RJ45)
RJ-45 เป็นคอนเน็ตเตอร์ในการเชื่อมต่อสู่ระบบเครือข่ายซึ่งเป็นที่นิยมสูงมาก
ทั้งบ้านเรือน จนถึงระดับองค์กรณ์ใหญ่ๆ ด้วยความเร็วสูงที่การเชื่อมต่อรูปแบบอื่นๆ
ด้วยความเร็วตั้งแต่ 10,100 MB/s จนไปถึงระดับ 1 GB/s
(1,000 MB/s) ใน Embedded PC รุ่นใหม่ๆ
ก็อยู่ในระดับ 1 GB/s แทบทั้งนั้นเลย
ด้วยความเร็วสูงขนาดนี้จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
10. Modem
Port (พอร์ต RJ11)
เป็นพอร์ตที่มีลักษณะคล้ายกับพอร์ต RJ45 แต่จะมีขนาดเล็กกว่า
เนื่องจากตัวพอร์ต RJ11 มีเพียง 4 ขา
ขณะที่ พอร์ต RJ45 มีจำนวนขา 8 ขา
สำหรับหน้าที่ของพอร์ต RJ11 นั้นไว้สำหรับเชื่อมต่อกับโมเด็มผ่านทางสายโทรศัพท์ที่มีการเข้าหัวแบบ
RJ11
11. S-Video Port (พอร์ต TV-Out)
เป็นพอร์ตที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับสาย S-Video เพื่อให้แสดงผลภาพจาก PC เพื่อไปปรากฏบนจอโทรทัศน์
12. DVI Port
เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับจอ LCD หรือเครื่องโปรเจ็คเตอร์ที่อยู่ภายนอก
โดยมีการรับส่งข้อมูลแบบดิจิตอล จึงทำให้ไม่ต้องมีการแปลงข้อมูลจากอนาล๊อกเป็นดิจิตอลอีกครั้ง
ส่งผลให้คุณภาพของการแสดงผลที่ได้จะมีประสิทธิภาพที่ดีและรวดเร็ว สำหรับพอร์ต DVI
จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบ DVI-I ที่รองรับทั้งสัญญาณแบบดิจิตอลและอนาล็อก และแบบ DVI-D ที่รองรับได้เพียงสัญญาณดิจิตอลเท่านั้น
13. HDMI Port
HDMI หรือ ย่อมาจาก High-Definition
Multimedia Interface ตามที่ชื่อบอกเลยครับว่ารองรับงานมัลติมีเดียได้อย่างเต็มที่
ด้วย Port ที่เชื่อมต่อกับเครื่องเล่น HDMI ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพวก LCD TV หรือ เครื่องเสียง
โดยในสาย HDMI จะรวบรวมสัญญาณดิจิตอลทั้งภาพและเสียงที่ส่งไปในสาย
HDMI เส้นเดียว
ทำให้มีความสะดวกเพราะไม่ต้องต่อสายหลายสายให้วุ่นวาย โดยสาย HDMI รองรับการส่งข้อมูลสูงสุดประมาณภาพยนตร์
HD 1080p เลยทีเดียว
14. พอร์ต RJB
สำหรับต่อเพื่อใช้ในการแสดงผลบนจอภาพภายนอกอื่นๆ
ลักษณะการเชื่อมต่อจะเป็นแบบอนาล็อกสามารถต่อได้ทั้งจอแบบ CRT และ
LCD
ใช้สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆของโน้ตบุ๊ค เช่น การ์ดโมเด็ม
การ์ดเมมโมรี่หรือไดร์ฟต่างๆที่เป็นแบบติดตั้งภายนอก
โดยจะมีลักษณะเป็นการ์ดหรือที่เรียกว่า PC Card การ์ด PCMCIA จะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ Type I: มีความหนาประมาณ 3 มม.
ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการ์ดหน่วยความจำต่างๆ, Type II: มีความหนาประมาณ
5 มม. ส่วนใหญ่จะใช้กับการ์ดโมเด็ม การ์ดแลนและการ์ดเสียง,
Type III: มีความหนาประมาณ 10.5 มม.
ส่วนใหญ่จะใช้กับฮาร์ดดิสก์ การ์ดตัดต่อหรือ การ์ด TV Tuner
16. พอร์ต SCSI
เป็นพอร์ตขนานที่มีความเร็วสูงแบบพิเศษสามารถต่ออุปกรณ์ที่เป็น SCSI
ได้ SCSI อ่านว่า สกัซซี่ (skuzzy) ย่อมาจาก small computer system interface
17. Card Reader
คือ Port ที่เอาไว้ใส่ การ์ดอ่านการ์ดต่างๆ MMC , MSD , CF และอื่นๆ
แล้วแต่ผู้ผลิตว่าจะติดตั้งเครื่องอ่านการ์ดชนิดใดมาบางส่งใหญ่ที่นิยมกันก็ เช่น SD
MMC
18. ช่องสัญญาณอินฟราเรค (IrDA)
ใช้สำหรับส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งโดยไม่ต้องใช้สายเคเบิ้ลในการ
เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สาย เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องปาล์มหรือพ็อกเก็ตพีซี
เป็นต้น ความเร็วในการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 4 Mbps แต่จะมีข้อจำกัดก็คืออุปกรณ์ทั้งสองต้องอยู่ห่างกันไม่เกิน
1 ฟุต และไม่สามารถรับส่งสัญญาณผ่านสิ่งกีดขวางได้
19. e-SATA
เป็น Port ที่เอาไว้ต่อกับ External Hard disk หรือ Hard disk ธรรมดาก็ได้ โดยพอร์ต e-SATA นั้นจะมีความเร็วมีหลักการทำงานเช่นเดียวกับพอร์ต SATA บนเมนบอร์ดเลย ด้วยความเร็วสูงถึง 3000 Mbit/s แต่ในพอร์ต
e-SATA จะมีแปลงหัวต่อให้สามารถใช้งานเป็นพอร์ต USB ได้ด้วย
20. Express Slot
คือ Port อีกชนิดหนึ่งที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากบนเมนบอร์ด
ซึ่งเอาไว้ ต่อกับการ์ดต่างๆ
เพื่อเพอ่มประสิทธิภาพเครื่องให้สูงขึ้นสามารถทำงานได้หลายอย่างมากขึ้นเช่น Air
Card , Sound Card หรือแม้กระทั่ง เพิ่มพอร์ต USB LAN โดยจะแบ่งกันเป็น 3 แบบหลักตามขนาดโดยในแต่ละเครื่องจะแตกต่างกันไป
แต่ที่นิยมในปัจจุบันมากที่สุดจะเป็น Express Card 54